บทวิเคราะห์ฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ลีก นัดที่สี่ ลีกเอ กลุ่มที่สอง เป็นการโคจรมาเจอกันอีกครั้งระหว่าง “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ เปิดรังเหย้า เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “โคนม” ทีมชาติเดนมาร์ก โดยทั้งสองทีมจะลงสนามปะทะแข้งกันในช่วงดึกของคืนวันพุธที่ 14 ตุลาคม เวลา 01.45 น. หรือเข้าสู่เช้าวันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม ตามเวลาประเทศไทย ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
“สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ เจ้าบ้าน ทำผลงานได้ดีเดินคาดในเกมที่ผ่านมาสามารถเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ทีมชาติเบลเยี่ยม มาได้ 2-1 ทำให้เวลานี้ผ่านการลงสนามไป 3 เกม พวกเขายังคงไม่แพ้ใครเก็บมาได้ 7 คะแนนจากผลงานชนะ 2 เสมอ 1 ทะยานขึ้นไปเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม สำหรับทัพสิงโตคำรามชุดนี้ยังคงอุดมไปด้วยสตาร์ดังจากพรีเมียร์ลีก ผสมผสานกับดาวรุ่งอนาคตไกลหลากหลายคน โดยจะนำทัพมาโดยดาวยิงกัปตันทีมฟอร์มร้อนแรงจากสโมสร “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ อย่าง แฮร์รี่ เคน
“โคนม” ทีมชาติเดนมาร์ก ผู้มาเยือน ยังคงทำผลงานได้ตามมารตฐานของทีม ไม่ดีไม่แย่ ผ่านการลงสนามมา 3 เกมเก็บชัยมาได้ 1 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้อีก 1 เกม มีอยู่ 4 คะแนน รั้งอยู่อันดับที่ 3 ของกลุ่มในขณะนี้ โดยผลงานการลงสนามเกมล่าสุดโชว์ฟอร์มสุดแจ่มบุกไปไล่ยิงถล่มเอาชนะ ทีมชาติไอซ์แลนด์ มาได้ 3-0 โดยขุมกำลังของพวกเขาเต็มไปด้วยนักเตะที่ค้าแข้งอยู่ในลีกระดับท็อปของยุโรปแทบทั้งสิ้น นำทัพมาโดย คริสเตียน อิริคเซ่น มิดฟิลด์ประสบการณ์สูงจากสโมสร “งูใหญ่” อินเตอร มิลาน
วิเคราะห์ก่อนเกม รูปทรงการเล่นของทัพสิงโตคำรามในยุคนี้ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่กลับพาทีมขึ้นมารั้งอยู่บนหัวตารางได้ โดยพวกเขาได้เรียกผู้เล่นหน้าใหม่หลายรายให้มาติดทีมชาติครั้งแรกทำให้ความทรงบอลยังไม่ต่อเนื่องอย่างที่แฟนๆ คาดหวัง โดยเกมนี้หากมองจากคุณภาพของผู้เล่นก็ต้องยอมรับว่าทางทีมชาติอังกฤษยังเหนือกว่าอยู่พอสมควร ซึ่งทางเยือนเป็นทีมที่ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องเกมรุกที่ดูจะเล่นกันไม่ค่อยเข้าขากันเท่าไหร่นัก จึงต้องไปเล่นเน้นเกมรับไว้ก่อน เกมนี้เชื่อว่าจากสไตล์การเล่นของทั้งสองทีมจะมีประตูเกิดขึ้นกันน้อย หรือไม่มีเลยแบบเดียวกับที่เจอกันนัดที่ผ่านมาที่เสมอกันไป 0-0 อย่างไรก็ตามยังเชื่อลึกๆว่า อังกฤษ ที่ได้เล่นในถิ่นตัวเอง และมีผู้เล่นที่หลากหลายก็กว่าจะอาศัยพลัดความหนุ่มบดเอาชนะไปได้แบบฉิวเฉียด
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติอังกฤษ (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด (GK) – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ไมเคิ่ล คีน, บูกาโย่ ซาก้า – เดแคลน ไรซ์, แฮร์รี่ วิงค์ส – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เมสัน เมาท์, มาร์คัส แรชฟอร์ด – แฮร์รี่ เคน
ทีมชาติไอซ์แลนด์ (4-4-2) : ฮานเนส ฮัลล์ดอร์สสัน (GK) – ฮอร์เตอร์ แฮร์มันน์สัน, คารี อาร์นาสัน, สเวเรียร์ อิงกาสัน, ฮอเรอร์ แม็กนุสสัน – ยอน ดาเกอร์ พอร์สสเตนสัน, เบียร์เคียร์ บียาร์นาสัน, วิคเตอร์ พอลส์สัน, อาร์เนอร์ อิงวี เทราสตาสัน – อัลเบิร์ต กุ๊ดมุนด์สสัน, ยอน ดาดี้ บูร์วาร์สสัน
ผลสกอร์ที่คาด : ทีมชาติอังกฤษ 1 – 0 ทีมชาติไอซ์แลนด์