บทวิเคราะห์ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสาม เป็นการจีบฉลากมาเจอกันระหว่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมสุดแกร่งจากเวทีพรีเมียร์ลีก เตรียมเปิดรังเหย้ารับการมาเยือนของ “ลูกโลก” เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ทีมจากศึกแชมเปียนส์ชิพ โดยเกมนี้จะลงดวลเพลงแข้งกันที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ในคืนของวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม เวลา 20.30 น.
เจ้าบ้าน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังเล่นกันได้อย่างแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อในฤดูกาลนี้จะไม่ได้ยิงถล่มคู่แข่งแบบถล่มทลายแบบที่เคยทำมาในอดีต แต่ทีมกลับเล่นได้อย่างรัดกุมขึ้นมา ทำให้สถิติการลงสนาม 12 เกมหลังที่ลงสนามในทุกรายการเพิ่งจะเสียเพียงแค่ 3 ประตูเท่านั้น และหากว่ากันด้วยฟอร์มการเล่นปัจจุบันแค่ 5 เกมหลังสุด ซิตี้ สามารถคว้าชัยมาได้ทุกเกม ล่าสุดเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่งจะหยุดความร้อนแรงของอริร่วมเมือง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการบุกไปยัดเยียดความปราชัยถึงโรงละครแห่งความฝันในรายการคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ 2-0 ด้านความพร้อมของทีมเวลานี้แคมป์เรือใบต้องเจอกับปัญหาไวรัสโควิด-19 เข้าเล่นงานทำให้ เฟร์ราน ตอร์เรส, เอแดร์ซอน, สก็อตต์ คาร์สัน, โคล พัลเมอร์ และ เอริค การ์เซีย ยังต้องเข้ารับการกักตัวลงสนามช่วยทีมไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ไคล์ วอล์คเกอร์ กับ กาเบรียล เชซุส ที่ตรวจพบว่าติดโควิดเมื่อช่วงคริสต์มาสสามารถกลับมาลงสนามช่วยทีมได้แล้ว
ทางด้าน “ลูกโลก” เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ทีมจากเวทีแชมเปียนชิพ ฟอร์มการเล่นในลีกแตกต่างกับเจ้าถิ่นเป็นคนละขั้ว พวกเขากำลังอยู่ในช่วงออกทะเลไปไกลยังหาทางกลับฝั่งไม่เจอ 6 เกมหลังสุดสะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลยทำผลงานเสมอ 1 เกม และแพ้ไปถึง 5 เกม ทีมกำลังมีปัญหาอย่างหนักในเรื่องการจบสกอร์ ทำให้พวกเขาหล่นลงไปรั้งอันดับที่ 18 ของลีกรองอยู่ในเวลานี้ โดบผลงานที่พวกเขาทำเอาไว้ก่อนจะลงสนามในนัดนี้คือการแพ้คาบ้านต่อ “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0-2 สำหรับในเรื่องความพร้อมของทีมถือว่ายังมีข่าวดีที่เกมนี้พวกเขายังไม่มีรายงานเข้ามาว่ามีผู้เล่นคนใดติดปัญหาบาดเจ็บหรือโดนแบน โดยผู้เล่นที่น่าจับตามองคือ เฌเรมี เบล่า ปีกตัวจี๊ดที่ทำไแล้ว 2 ประตู กับ 4 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้
วิเคราะห์ก่อนเกม ชั่วโมงนี้ฟอร์มการเล่นของ ซิตี้ ยากที่จะหาทีมหยุดจริงๆ ด้วยระบบการเล่นที่ลงตัวขึ้นเรื่อยๆ และแนวรับที่แกร่งที่สุดบนเกาะอังกฤษ แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือการขาดหายไปของความดุดันในการพังประตู ซึ่งเวลานี้พวกเขากำลังประสบปัญหาขาดแคลนศูนย์หน้าตัวเป้า อย่างไรก็ตามเกมนี้ยังมองไม่เห็นว่าลูกทีมของ เป๊ป จะพลาดท่าได้อย่างไร เมื่อทางฝั่งผู้มาเยือนกำลังอยู่ในช่วงขาลงขาดความมั่นใจอย่างหนัก 5 นัดหลังโดนถลุงไป 12 ประตู และยังมีปัญหาปืนฝืดอย่างหนักยิงไม่ได้มา 3 เกมติดต่อกันแล้ว ด้วยชื่อชั้นของทีมที่แตกต่างกันอยู่คนละระดับทัพลูกโลกจะต้องมาเล่นแบบจอดรถบัสขวางหน้าประตูแบบเต็มที่ และลูกบอลจะไปอยู่กับทางฝั่ง ซิตี้ เป็นส่วนใหญ่ อยู่ที่เวลาเท่านั้นว่าเจ้าบ้านจะทำประตูออกนำได้เมื่อไหร่ แม้เกมนี้ เป๊ป จะโรเตชั่นส่งผู้เล่นสำรองลงสนามก็ยังเชื่อว่าด้วยระบบการเล่น ความมั่นใจ และคุณภาพที่มีอยู่เต็มเปี่ยมทั้งทีม จะพาทัพเรือใบผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้แบบไม่ยาก
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : แซค สเตฟเฟน (GK) – ชูเอา คานเซโล่, นาธาน อาเก้, อายเมริค ลาปอร์ก, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน – ริยาด มาห์เรซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟิล โฟเด้น – กาเบรียล เฆซุส
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ (4-5-1) : นีล เอเธอริดจ์ (GK) – มักซิม โกแล็ง, เจค คล้าร์ก-ซอลเตอร์, มิเกล ซาน โฆเซ่, จอร์จ เฟรนด์ – ไมเคล คีฟเทนเบลด์, เฌเรมี เบล่า, อิวาน ซุนยิช, เคริม เอ็มรับตี้, ลูคัส ยุตคีวิซ – สก็อตต์ โฮแกน
ผลสกอร์ที่คาด : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 – 0 เบอร์มิงแฮม ซิตี้