หลังจากทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านซีซั่นอันแสนขมขื่นของแฟนบอล ด้วยการจบอันดับที่ 6 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยการคุมทัพแบบชั่วคราวของกุนซือ ราล์ฟ รังก์นิก บอร์ดบริหารต่างเห็นพ้องต้องกันว่า พวกเขาจำเป็นต้องรีบนำเข้าผู้จัดการทีมรายใหม่ เข้ามาเพื่อกอบกู้สถานการณ์ของทีมเป็นการเร่งด่วน แล้วก็สามารถไปคว้าตัว เอริก เทน ฮาก เทรนเนอร์ชาวฮอลแลนด์มาจาก อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่พาทีมเถลิงแชมป์ เอเรดิวิซี่ ลีก ฮอลแลนด์ ได้อย่างน่าชื่นชม รวมไปถึงผลงานในเกมยุโรปบนเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ถึงแม้จะไปไม่ถึงฝัน แต่ก็มีเกมที่ไล่ถล่มคู่แข่งได้อย่างน่าจดจำ แสดงให้เห็นถึงฝีมือการวางแทคติกส์ที่ไม่ธรรมดา ซึ่งแฟนบอล ปีศาจแดง ได้แต่หวังว่า กุนซือรายนี้จะเข้ามาเป็นผู้กอบกู้ทีมได้สำเร็จสักที
แน่นอนว่าขุมกำลังที่มีอยู่ในทีมทุกวันนี้ หากมองกันเพียงแต่รายชื่อตามหน้าเสื่อ ใครๆ ก็คงมองว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นมีความพร้อมเหนือกว่าคู่แข่งร่วมลีกอยู่หลายทีม แต่พอเห็นฟอร์มการเล่นกันแบบจริงๆ จังๆ ในสนามแล้ว ผลงานที่ออกมาช่างแตกต่างกันสิ้นเชิง ราวกับเป็นแค่ผู้เล่นเสือกระดาษ ใช้ได้แค่ชื่อเอาไว้ขู่เท่านั้น ดังนั้นสื่อทั้งหลายในต่างประเทศ จึงพยายามเล่นประเด็นเรื่องการเสริมทัพของ เร้ด เดวิลส์ กันเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องการรอดูว่า บอร์ดบริหารและเจ้าของทีม จะสนับสนุนกุนซือใหม่แค่ไหน? เป้าหมายแต่ละตัวที่เล็งเอาไว้ จะได้ตรงตามสเปคที่ต้องการหรือไม่? ทำให้ชื่อของสตาร์หลายรายมีข่าวเชื่อมโยงแบบต่อเนื่อง ไม่มีเว้นว่างให้หายใจกันเลยในแต่ละวัน
บทความนี้ทีมงาน 168kick พร้อมนำเสนอ 5 การเซ็นต์สัญญาที่อาจปฏิวัติทีม ให้กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งในยุคของ เทน ฮาก ตามการคาดการณ์ของสื่อ ซึ่งมองจากรายชื่อที่ติดโผเข้ามาแต่ละราย ขอแค่ได้มาสักครึ่งนึงของทั้งหมด คงจะทำให้กุนซือไร้ผมรายนี้ มีทีมที่มีศักยภาพเป็นเบอร์ต้นๆ ของลีกได้แบบสบายๆ แต่จะมีตัวท็อปจาสโมสรใดกันบ้างที่เป็นเป้าหมายของ ยูไนเต็ด ในตลาดรอบบี้ แล้วพวกเขาเหล่านั้นจะเข้ามาช่วยทีมได้ในบทบาทใดกันบ้าง? มาดูกันไปพร้อมๆ กันได้เลย
เริ่มต้นกันที่เป้าหมายเบอร์หนึ่ง เป็นผู้เล่่นในตำแหน่งมิดฟิลด์เชิงรับ ดีกรีทีมชาติฮอลแลนด์ชุดใหญ่ ซึ่งตกเป็นข่าวอย่างหนาหูว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังพยายามทุกวิถีทางเพื่อโน้มน้าวให้ บาร์เซโลน่า ยอมปล่อยตัว เฟรงกี้ เดอ ยอง มาเล่นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในฤดูกาลหน้าให้ได้ ด้วยการหวังใช้โอกาสในช่วงที่ เจ้าบุญทุ่ม มีปัญหาด้านการเงิน ล่อด้วยข้อเสนอก้อนโตแบบสมน้ำสมเนื้อ รวมไปถึงปล่อยให้ เอริก เทน ฮาก ที่เคยเป็นเจ้านายเก่า ตามโทรจีบแบบไม่ว่างเว้น จนัตัวนักเตะเองต้องมาคอยรับสายแบบอดหลับอดนอน
การันตีเลยว่าดีลของ เดอ ยอง คงไม่มีทางจบลงแบบถูกๆ เพราะศักยภาพของเขา ช่วยให้แดนกลางของ บาร์ซ่า มีมิติการเล่นเกมรับและรุกอย่างสมดุลย์ เป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์แห่งอนาคตของทีม อันเป็นตำแหน่งที่ทาง ยูไนเต็ด กำลังต้องการเสริมอย่างเร่งด่วน เพราะต้องเสียตัวรับแบบแท้ๆ ที่เป็นสายเชิงอย่าง เนมานย่า มาติช ออกไป แล้วการเลือก เดอ ยอง เป็นตัวแทน ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่หมาะสมสุดๆ
ต่อกันที่รายที่สอง เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางเช่นเดียวกัน แม้ว่าอาจไม่ใช่ตำแหน่งที่จำเป็นต้องรีบร้อนในการแก้ไข แต่การเสีย ปอล ป็อกบา ออกไปจากทีม ยังไงก็ต้องหาตัวแทนที่เหมาะสมเข้ามาไม่ช้าก็เร็ว เนื่องจากการเสียมิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกมออกไป ย่อมส่งผลกระทบต่อการขึ้นเกมในแดนกลางแบบเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเป้าหมายอย่าง เซอร์เกย์ มิลินโควิช-ซาวิช จากสโมสร ลาซิโอ ที่เคยเป็นข่าวพัวพันกันมาหลายตลาด
มาในครั้งนี้ดูท่าว่าจะเป็นต้องจริงจังกับการเจรจามากกว่าครั้งก่อนๆ อย่างไรก็ตามการคว้าตัวกองกลางวัย 25 ปี ดีกรีทีมชาติเซอร์เบีย คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เนื่องจากมีอีกหลายทีมเป็นคู่แข่งที่ชื่อชั้นไม่แพ้กัน แถมตัวประธานสโมสร อินทรีฟ้าขาว อย่าง เคลาดิโอ โลติโต้ ไม่เคยขายนักเตะออกไปแบบถูกๆ อยู่แล้ว
แต่การเติม มิลินโควิช-ซาวิช เข้ามาในแดนกลาง สามารถเพิ่มมิติเกมรุกให้ทีมได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการออกบอลที่เฉียบคม การเล่นเกมรับที่ดักบอลได้ดีกว่าตัวเลือกอื่นๆ ที่มีอยู่ บวกกับการเติมขึ้นไปยิงจากแถวสอง ทุกองค์ประกอบล้วนเติมเต็มสิ่งที่ทีมขาดไปได้อย่างน่าสนใจทีเดียว
ถัดมาที่รายที่สามเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ ที่เป็นเป้าหมายที่ยากจะเอาตัวมาได้มากที่สุด เนื่องจาก เดแคลน ไรซ์ เป็นดาวเตะเนื้อหอมที่ต้องแข่งขันกับคู่แข่งร่วมลีกหลายทีม ซึ่งเผลอๆ แล้วชื่อของ ยูไนเต็ด อาจไม่สามารถใช้ข่มใครเขาได้ในตอนนี้ เมื่อมองไปที่ตัวเเลือกอื่นๆ อย่าง เชลซี ที่แอบเมียงมองอยู่เช่นกัน เพียงแต่ยังไม่ขยับตัวเต็มร้อย
แถมตัวของ ไรซ์ ยังเป็นเพื่อนสนิทกับ เมสัน เมาท์ แนวรุกสาระพัดประโยชน์ของ สิงห์บลู ยิ่งทำให้ได้เปรียบมากเข้าไปใหญ่ แถมมีดีกรีเคยเป็นเด็กฝึกของทีมมาก่อนอีก ทางเดียวที่ ปีศาจแดง จะเอาชนะได้ คงหนีไม่พ้นการเกทับจ่ายหนักเป็นพิเศษ ซึ่งการใช้เงินระดับ 100 ล้านปอนด์ คงพอจะทำให้ เวสต์แฮม ยอมเปิดการเจรจาได้ก็จริง แต่สุดท้ายแล้วการตัดสินใจขั้นท้ายสุดก็ขึ้นอยู่กับ ไรซ์ อยู่ด
การันตีได้เลยว่าหากได้ตัว “น้องข้าว” มาร่วมทีมจริง แดนกลางของ ปีศาจแดง จะมีสถิติการตัดบอลได้ดีขึ้นมาก ยิ่งไปกว่านั้นศักยภาพการพาบอลขึ้นไปแดนบน ก็คงช่วยเพิ่มมิติการเล่นได้มากโข
เข้าสู่รายรองสุดท้ายกันที่ผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ค เป็นอดีตลูกทีมของ เทน ฮาก ที่ปั้นมาเองกับมือ โอกาสที่จะดึงตัวมาได้นั้นมีสูง แต่ที่กำลังชั่งใจอยู่เป็นเพราะว่า ผู้เล่นในจุดนี้ของทีมอาจไม่ได้ขาดแคลนเท่าตำแหน่งอื่น ทำให้ดีลของ ยูร์เรี่ยน ทิมเบอร์ เพียงแค่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเสริมทัพเท่านั้น ยังไม่ได้เดินเกมแบบเป็นจริงเป็นจัง เนื่องจากรู้ดีว่าถ้าลุยปิดดีลแบบเต็มที่ ไม่น่าหลุดมือไปอย่างแน่นอน
ทิมเบอร์ วัย 20 ปี เป็นผู้เล่นที่เหมาะสมในการทำทีมระยะยาว ศักยภาพของเขายังพัฒนาไปได้อีกไกล หากเก็บประสบการณ์ในการเล่นระดับสูงไปเรื่อยๆ ทุนเดิมนั้นมีดีอยู่แล้วในเรื่องของความแข็งแกร่งและรูปร่างที่สูงใหญ่ เล่นได้ทั้งกองหลังตัวกลาง หรือ ขยับออกไปยืนแบ็คขวาก็ทำได้แบบไม่ขัดเขิน เป็นหนึ่งในคีย์แมนคนสำคัญในแนวรับของ อาแจกซ์ ที่พาทีมไปถึงตำแหน่งแชมป์ลีกได้สำเร็จ ราคาค่างวดก็น่าจะตกลงกันได้ในตัวเลขที่เหมาะสม
ปิดท้ายกันที่คนสุดท้ายเป็นผู้เล่นในตำแหน่งแนวรุก ที่เล่นได้อย่างสาระพัดประโยชน์ ไม่ว่าจะยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า หรือถ่างออกไปริมเส้น ฟอร์มแรงจนกุนซือทีมชาติฝรั่งเศส ต้องเรียกไปติดทีมชุดใหญ่ เนื่องจากผลงานของ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ดาวยิงวัย 24 ปี ที่กดไป 34 ประตู และทำ 20 แอสซิสต์ทุกรายการ ไม่สามารถมองผ่านแบบไม่สนใจได้จริงๆ
จุดเด่นของเขา คือ สปีดต้นที่รวดเร็วปานสายฟ้า จังหวะการกระชากฉีกแนวรับเป็นริ้วๆ รวมไปถึงจังหวะการจบสกอร์ที่ไว้ใจได้ หากทาง มาร์คัส แรชฟอร์ด ฟอร์มออกทะเลแบบต่อเนื่องอีกปี ดูท่าแล้วออกทะเลไม่กลับฝั่ง เอ็นกุนกู คงเป็นตัวแทนที่เข้ามาอุดรูโหว่ได้แบบไร้รอยต่อ
แต่สุดท้ายแล้วคงหนีไม่พ้นการจ่ายหนักแบบกระเป๋าฉีกแบบเดิมๆ เพราะทางต้นสังกัดอย่าง แอร์เบ ไลป์ซิก รู้มูลค่าของผู้เล่นรายนี้เป็นอย่างดี เพราะศักยภาพฝีเท้ายังก้าวไปได้อีกไกล จ่อเป็นสตาร์เบอร์ต้นๆ ของวงการ แถมเผลอๆ ตัวนักเตะเอง อาจออกมาปฏิเสธเพราะความฝันของเขาเปรยมาแล้วว่า ต้องการย้ายกลับไปพิสูจน์ตัวเองกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง