บทวิเคราะห์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดกลางสัปดาห์เกมอันแสนน่าสนใจ คู่ระหว่าง “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนามเหย้ารับมือกับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยทั้งสองทีมจะลงวัดฝีเท้ากันในช่วงดึกของ วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน เวลา 01.30 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้ามืดของ วันศุกร์ที่ 2 กันยายน ตามเวลาประเทศไทย ณ สนาม คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
เจ้าบ้าน เลสเตอร์ ซิตี้ ดูท่าว่ากุนซือของทีมอย่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องเจอกับปัญหาทั้งในและนอกสนามแบบไม่หยุดหย่อน เริ่มตั้งแต่ไม่สามารถเสริมทัพได้ เพราะติดเรื่องของกฏการเงิน ที่จำเป็นต้องขายออกไปก่อนซื้อ ตัวผู้เล่นที่มีอยู่ในทีมตอนนี้นัดกันฟอร์มตก โดยเฉพาะแนวรับที่จับใครลงสนาม ก็มักจะมีช็อตพลาดให้เห็นกันเป็นประจำ แนวรุกยิ่งเล่นยิ่งขาดความมั่นใจ ถึงแม้จะเน้นการทำสกอร์แบบฉาบฉวย แต่ในเมื่อไม่คมก็กลายเป็นเปิดช่องให้คู่แข่งเอาคืนได้ ลงเล่นไปแล้ว 4 นัด ยังเก็บชัยไม่ได้แม้แต่เกมเดียว มีเพียงหนึ่งแต้ม รั้งอันดับรองบ๊วย อาการเข้าขั้นโคม่าสุดๆ สำหรับความพร้อมของทีมนัดนี้จะขาด ริคาร์โด้ เปเรย์ร่า แบ็คขวากระดูกเปราะเพียงแค่รายเดียว ที่เหลือคนอื่นๆ ฟิตสมบูรณ์เต็มที่ แค่ต้องมาดูกันว่า กุนซือจะเลือกใครเป็น 11 ตัวจริงที่เหมาะสมที่สุด โดยสตาร์ที่เป้นความหวังในการเจาะตาข่ายทีมเยือน นาทีนี้ต้องฝากไว้กับ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส ที่เพิ่งยิงได้ในเกมล่าสุดกับ เชลซี
ฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การทำทีมของ เอริก เทน ฮาก ออกตัวได้อย่างย่ำแย่ในสองเกมแรก แต่มาเจอจุดเปลี่ยนสำคัญในเกมแดงเดือด ที่สามารถเอาชนะอริตลอดกาลไปได้แบบเหลือเชื่อ ทำให้เกมล่าสุดยังคงต่อยอดความมั่นใจ บุกไปเอาชนะ เซาแธมป์ตัน ได้ถึงถิ่นแบบฉิวเฉียด 1-0 เก็บคลีนชีตแรกในลีกกับเขาได้เสียที การเล่นของทีมเน้นไปที่จังหวะโต้กลับที่เฉียบคม มีจังหวะการจบสกอร์ที่ใช้โอกาสไม่เปลือง เน้นให้กองกลางออกบอลสั้นสลับยาว เพื่อเปิดพื้นที่ให้กองหลังคู่แข่งจับทางได้ยาก แนวรุกเน้นไปที่ผู้เล่นฝีเท้าจัดจ้าน ชงเองกินเองได้แบบไม่ต้องมีตัวป้อน นัดนี้อาจมีการโรเตชั่นนักเตะบางตำแหน่ง เก็บตัวไว้เล่นเกมใหญ่กับ อาร์เซน่อล ช่วงสุดสัปดาห์ สภาพทีมในเกมนี้จะอดใช้งาน วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ ฟาคุนโด้ เปยิสตรี ที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ แต่ไม่น่ากระทบทีมใดๆ เนื่องจากไม่ใช่ตัวหลักอยู่แล้ว นอกเหนือจากรายชื่อข้างต้นพร้อมบุกล่าชัยสามนัดติดได้ทั้งหมด นำทัพมาโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าระดับตำนาน ที่อาจได้เล่นนัดสั่งลาก่อนย้ายทีม
วิเคราะห์ก่อนเกม สถิติการเจอกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม ปรากฏว่า เป็นเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่าชัดเจน ด้วยผลงานชนะ 3 นัด และเสมอ 2 นัด ไม่พลาดปราชัยให้กับทีมเยือนแม้แต่เกมเดียวในช่วงหลัง ค่อนข้างเป็นบอลที่แพ้ทางกัน ไม่ต่างกับ งูเหลือมเจอเชือกกล้วย เกมนี้ เลสเตอร์ ซิตี้ จำเป็นต้องทุ่มแบบเต็มสูบ เพราะผลงานกำลังเข้าขั้นวิกฤติ ต้องการหาจุดเปลี่ยน เพื่อกลับมาบนเส้นทางที่เหมาะสมให้เร็วที่สุด อาจมาเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดหน้าแลกวัดกันไปเลย ตรงกันข้ามกับ ปีศาจแดง ที่ออกมาเล่นเกมเยือน แล้วต้องพยายามประคองตัว เน้นขอให้มีแต้มกลับบ้านไว้ก่อนแบบไม่ประมาท คงเน้นการเล่นเกมรับเป็นจุดตั้งต้น อาศัยจังหวะสวนกลับเหมือนนัดก่อน โจมตีด้วยผู้เล่นที่มีความเร็วจากริมเส้นสองฝั่ง เชื่อว่ารูปเกมจะออกมาเป็นการแลกอาวุธกันคนละหมัด ตัดสินผู้ชนะกันที่ความคมล้วนๆ ซึ่งนาทีนี้ขอชี้เป้าไปที่อาคันตุกะจาก แมนเชสเตอร์ ที่กำลังเข้าฝักมากกว่า
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : แดนนี่ วอร์ด (GK) – ทิโมธี กาสตานเญ่, จอนนี่ อีแวนส์, ดาเนี่ยล อมาร์ตีย์, ทิโมธี กาสตานเญ่ – วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูริ ตีเลอม็องส์, เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ – เดนนิส ปราต, เจมี่ วาร์ดี้, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-3-3) : ดาบิด เด เกอา (GK) : ดิโอโก้ ดาโลต์, ราฟาเอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์ – บรูโน่ แฟร์นานเดส, คาเซมิโร่, สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ – เจดอน ซานโช่, มาร์คัส แรชฟอร์ด, คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ผลสกอร์ที่คาด : เลสเตอร์ ซิตี้ 1 – 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด